คุณสมบัติทั่วไปของระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ
1) มีสัญชาติไทย
2) มีอายุไม่เกิน 40 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร
3) ต้องปฏิบัติงานให้แก่ สพพ. ได้เต็มเวลา
4) มีคุณวุฒิหรือประสบการณเหมาะสมกับวัตถุประสงคและอํานาจหน้าที่ของ สพพ.
5) ไม่เป็นข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงานหรือลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำของหน่วยงานของรัฐ
6) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไรความสามารถ หรือคนเสมือนไรความสามารถ
7) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
8) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
9) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการจากหน่วยงานของรัฐ บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
10) ต้องไม่เป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการที่กระทำกับ สพพ. หรือในกิจกรรมที่เป็นการแข่งขันกับกิจการของ สพพ. ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
11) กรณีเพศชาย ต้องผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วเท่านั้น
สำหรับในข้อ 5) ข้อ 8) และข้อ 10) นั้น ให้มีผลบังคับในวันที่แต่งตั้ง
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง: เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับปฏิบัติการ
1) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ในสาขาบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ การพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development) รัฐศาสตร์ หรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
2) หากมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
3) มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
3.1) มีผลสอบ TOEIC ไม่น้อยกว่า 600 คะแนน หรือ
3.2) มีผลสอบ TOEFL paper ไม่น้อยกว่า 510 คะแนน หรือ TOEFL iBT 64 คะแนน หรือ
3.3) มีผลสอบ IELTS ไม่น้อยกว่า 5.0 คะแนน
3.4) มีผลสอบภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่เทียบเท่าข้อ 3.1) – 3.3) จากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ
โดยผลการทดสอบฯ จะต้องไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร
4) มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี
5) มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานภายใต้แรงกดดันได้เป็นอย่างดี
6) มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และทักษะการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างดี
7) สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานทั้งในและต่างประเทศได้
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง: เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับชำนาญการ
1) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ในสาขาบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ การพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development) รัฐศาสตร์ หรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
2) มีประสบการณ์ทำงานทั่วไปไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากปีที่จบปริญญาตรี
3) มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
3.1) มีผลสอบ TOEIC ไม่น้อยกว่า 600 คะแนน หรือ
3.2) มีผลสอบ TOEFL paper ไม่น้อยกว่า 510 คะแนน หรือ TOEFL iBT 64 คะแนน หรือ
3.3) มีผลสอบ IELTS ไม่น้อยกว่า 5.0 คะแนน หรือ
3.4) มีผลสอบภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่เทียบเท่าข้อ 3.1) – 3.3) จากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ
โดยผลการทดสอบฯ จะต้องไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร
4) มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี
5) มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานภายใต้แรงกดดันได้เป็นอย่างดี
6) มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และทักษะการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างดี
7) สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานทั้งในและต่างประเทศได้
เงื่อนไขการจ้าง
1) สัญญาจ้างเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน เป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาคราวละไม่เกิน 5 ปีนับจากวันที่เริ่มปฏิบัติงาน และเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง หากผู้รับจ้างมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับการพิจารณาต่อสัญญาได้เป็นคราวๆ ไป โดยมีกำหนดระยะเวลาตามระเบียบและข้อบังคับของ สพพ.
2) กิจการของ สพพ. ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
อัตราเงินเดือนและสวัสดิการอื่นๆ
อัตราเงินเดือนของเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ของผู้สมัคร ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ กำหนด และมีสวัสดิการที่ สพพ. จัดให้ อาทิ ประกันกลุ่ม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเงินช่วยเหลือเพื่อการศึกษาบุตร และผลตอบแทนอื่นๆ
เอกสารและหลักฐานที่ประกอบการสมัคร
1) ใบสมัครตามแบบฟอร์มของสำนักงาน
2) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป (ถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน)
3) ประวัติของผู้สมัคร ความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษพิมพ์ (A4)
4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
5) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
6) สำเนาวุฒิการศึกษา หรือ สำเนาหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษา จำนวน 1 ชุด
7) สำเนาใบแสดงผลการเรียน (Transcript) จำนวน 1 ชุด
8) สำเนาหนังสือรับรองการผ่านงาน (ถ้ามี)
9) สำเนาหลักฐานการผ่านการเกณฑ์ทหารสำหรับผู้สมัครเพศชาย จำนวน 1 ฉบับ
10) ผลการทดสอบภาษาอังกฤษ ตามที่ระบุในคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
11) สำเนาหลักฐานอื่นๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล จำนวน 1 ฉบับ (ถ้ามี)
* เอกสารทุกหน้าต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง *
การรับสมัคร
ผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการคัดเลือก สามารถเลือกสมัครในระดับปฏิบัติการ หรือระดับชำนาญการ ได้เพียง 1 ระดับ สามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• วิธีการยื่นใบสมัคร
1) ยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ในวันและเวลาราชการ เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เลขที่ 123 อาคารซันทาวเวอร์ส เอ ชั้น 14 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือ
2) ส่งใบสมัครตามแบบฟอร์มของสำนักงาน พร้อมสแกนเอกสารหลักฐานการสมัครมาทางอีเมล nitirucht@neda.or.th (กรุณาส่งเอกสารเป็นไฟล์ PDF) โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ www.neda.or.th หัวข้อ “สมัครงาน” หัวข้อ “แบบฟอร์มใบสมัคร ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน” หรือ
3) กรอกใบสมัครออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.neda.or.th พร้อมอัพโหลดเอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล คุณนิติรัชน์/คุณมัทนพร โทรศัพท์ 0 2617 7676 ต่อ 501-2
ทั้งนี้ หากหลักฐานประกอบการรับสมัครตามข้างต้นไม่ครบถ้วน จะต้องนำส่งหลักฐานที่เหลือ
ให้ครบถ้วน ภายในระยะเวลาของการรับสมัคร หากพ้นระยะเวลารับสมัครไปแล้วจะไม่รับพิจารณาใบสมัคร
การคัดเลือก
คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้น ทาง www.neda.or.th เพื่อเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ตามวัน เวลา และสถานที่ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าต่อไป ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ตามกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์โดยทันที
คณะกรรมการคัดเลือกฯ สงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เห็นสมควรเท่านั้น หากเห็นว่ามีจำนวนผู้สมัครน้อยราย คณะกรรมการคัดเลือกฯอาจขยายระยะเวลารับสมัครหรือยกเลิกการรับสมัครคราวนี้และดำเนินการรับสมัครใหม่ก็ได้ โดยผู้สมัครจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากคณะกรรมการคัดเลือกฯ หรือ สพพ. ไม่ได้ ทั้งนี้ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ถือเป็นที่สุด